บทความที่ 1

ลดไขมันสไตล์คนขี้เกียจ

หมวดหมู่: ทิปหุ่นดี

วิธีลดไขมันให้ได้สัดส่วนที่ต้องการโดยไม่เสียเหงื่อ

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

1. ทำไมการลดไขมันจึงเป็นเรื่องยาก

2. เข้าใจวงจรชีวิต

3. เคล็ดลับสลายไขมันแบบคนขี้เกียจทำ

4. แนวทางการรักษาที่หวังผลได้

5. สนใจโปรแกรมการรักษา

ก่อนอื่นหมออยากให้คุณดูภาพ 2 ภาพนี้ค่ะ

ข้อที่ 1 After effect หลังออกกำลังกาย และสิ่งที่หมออยากจะสื่อจากภาพทั้งสองคือ..

รู้หรือไม่

ถ้าเราวิ่งบนลู่ zone 2 ในเวลา 1 ชั่วโมง สามารถการเบิร์นไขมัน 24 g และใช้พลังงานค่าเฉลี่ย 400-500 kcal
คาดิโอ 45 นาที เผาผลาญไขมัน 20 g ใช้พลังงานค่าเฉลี่ย 500 kcal
ออกกำลังกายเสร็จ เริ่มหิวทานเค้กจะเพิ่ม Fat 38.25 g และพลังงาน 700-800 kcal

คุณต้องใช้เวลาถึง 60 นาที ในการขจัดไขมัน แต่ใช้เวลาแค่ 5 นาที ในการเพิ่มไขมันเข้ามาอย่างง่ายดาย รู้หรือยังว่าทำไมลดสัดส่วนจึงยาก

และที่หมอจะบอกก็คือ ตัวเลขประมาณการณ์เหล่านี้เป็นค่าเฉลี่ยสำหรับผู้หญิง อายุ 30 ปี

แน่นอนทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า “ยิ่งอายุมากขึ้น ระบบการเผาผลาญในร่างกายเรายิ่งแย่ลง”

ข้อ 2 ในวงจรชีวิตของคนทั่วไปมักจะเป็นแบบนี้ ตื่นเช้า>เดินทางไปทำงาน>ทำงาน 8 ชม>กลับบ้าน>ทำอาหาร>เลี้ยงลูก จึงเป็นเรื่องยากที่เราทุกคนจะสามารถหาเวลามาออกกำลังกายวันละ 1.5 ชั่วโมง ได้เฉลี่ยอาทิตย์ละ 3-4 วันค่ะ นี่ยังไม่นับ OTล่วงเวลางาน หรือเวลาออกไปสังสรรค์กับผู้คน หรือภาระหน้าที่ต่างๆอีกนะคะ

ข้อ 3 คนไทยเป็น “สังคมครอบครัว” การรับประทานข้าวเย็นร่วมกัน พร้อมกัน พ่อ แม่ ลูก หรือคู่รัก เป็นสิ่งที่สร้างสายสัมพันธ์อันอบอุ่นที่ขาดไม่ได้ จำได้ไหมที่หมอบอกไว้ว่า

Input = Output เสมอ อย่างน้อยต้องเป็นสมการนี้ ห้าม Input > output ค่ะ

แม้ทุกคนจะไม่ได้เป็นแบบที่หมอกล่าวมาทั้งหมดแต่…ยังมีอีก

ข้อ 4 ความต่อเนื่อง ความจริงจัง หรือวินัย อะไรก็ตามแล้วแต่จะเรียก ว่าตัวเรามีมากน้อยแค่ไหน

เชื่อหรือยัง!! ทำไมการกำจัดไขมันเพื่อลดสัดส่วนจึงเป็นเรื่องยากมาก

ทั้งหมดที่กล่าวมาหมอไม่ได้บอกให้ทุกคนไม่ต้องออกกำลังกายนะคะ การดูแลสุขภาพ หาเวลาออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดีที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง และหมอจะดีใจมากที่คนไข้หมอทุกคนใส่ใจสุขภาพ

แต่ถ้าคุณเป็นอีกคนที่มีข้อจำกัดมากมายในชีวิตและอยากจะลดสัดส่วน ทำรูปร่างให้ดีขึ้น หมอมีเคล็ดลับมาบอกนะคะ

จากข้อมูลผลทดลองการสลายไขมันด้วยความเย็นตามบริเวณต่างๆของร่างกายในผู้เข้าทดลองที่หลากหลายพบว่า

ผู้เข้ารับการรักษาพอใจในผลลัพธ์และผลจากการทำ Ultrasound จะเห็นความแตกต่างในทันทีหลังทำตามตาราง

และอย่าลืมนี่เป็นผลหลังทำทันที เซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะยิ่งค่อยๆสลายหายไปเพิ่มอีกในระยะเวลา 1-3 เดือน นี่ไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการขจัดไขมันส่วนเกินเพื่อรูปร่างที่ปรารถนา

รีวิวเคสสลายไขมัน Coolsculpting

รู้ไหม!!! หมอได้ยินชื่อเทคโนโลยีสลายไขมันความเย็น Coolsculpting มาจากไหน ไม่ใช่การประชุมวิชาทางการแพทย์ที่หมอไปร่วมมาประจำๆนะคะ แต่จากดารา Hollywood ขวัญใจหมอ Jennifer Aniston และยังมีดาราระดับโลกอีกหลายๆคนที่หลงใหลการสลายไขมันไม่ผ่าตัดแบบนี้ จึงทำให้หมอสงสัยว่า การสลายไขมันความเย็นโดยไม่ผ่าตัดนั้นเป็นไปได้ด้วยเหรอ

หมอจึงใช้เวลาในการหาข้อมูลทั้งไทยและต่างประเทศ เดินทางไปดูงานแสดงเทคโนโลยีทางการแพทย์ตามที่ต่างๆ สอบถามความเห็นจากอาจารย์ในวงการความงาม แม้จะเสียเงินไปหลายล้านบาท แต่ก็ทำให้หมอมั่นใจได้ว่า การสลายไขมันความเย็น Coolsculpting เป็นของจริง

หลังทดลองจนแน่ใจแล้ว หมอจึงได้ออกแบบโปรแกรมการรักษาที่ช่วยลดไขมันสไตล์คนขี้เกียจขึ้นมาเองค่ะ 555

โปรแกรมการรักษาจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ

ส่วนแรก Know You

ก่อนจะทำการสลายไขมันคุณจะต้องรู้จักตัวเองก่อนค่ะ โดยหมอจะให้แนวทางการลดน้ำหนักแบบมีแบบแผนดังนี้ คลิกที่นี่ คุณจะต้องสำรวจตัวเองก่อนที่จะเข้ามาพบหมอเพื่อขอคำแนะนำ

ส่วนที่ 2 DIY วัดไขมันและสัดส่วนด้วยตัวเองดูค่ะ เมื่อแน่ใจแล้วว่าคุณเหมาะกับการสลายไขมันแบบนี้ หมออยากให้คุณลองประเมินรูปร่างตัวคุณเองก่อน โดยหมอจะมี Guideline ไว้ให้สำหรับเป็นไอเดียก่อนเข้ามาวัดประเมินรูปร่างแบบละเอียดอีกครั้งค่ะ

ส่วนที่ 3 Let Go และ Follow up

เมื่อพร้อมแล้วก็มาลุยเปลี่ยนแปลงรูปร่างกันเลยค่ะ และมีข้อแม้นิดนึงหลังทำการรักษาหมออยากให้คุณปฏิบัติตามกฏต่อไปนี้ตลอดระยะเวลา 3 เดือนนะคะ เชื่อเถอะหมออยากให้คุณผอมหุ่นดีจริงๆ

กฎข้อที่ 1 Input < Output แม้คุณจะได้สลายไขมันด้วยเครื่องมือที่ดีแล้วก็ตามแต่ คุณจะต้องไม่เพิ่มไขมันใหม่เข้ามานะคะ อย่าลืมว่าเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายไปเป็นเซลล์ไขมันเก่า เซลล์ไขมันที่เพิ่มเข้ามาใหม่ไม่ได้ถูกกำจัดไปด้วย

กฎข้อที่ 2 wait and see รอคอยอย่างใจเย็น ต้องเข้าใจหลักการสลายไขมันไม่เหมือนการดูดไขมันออกไป เพราะเป็นการค่อยๆฆ่าเซลล์ให้ตายไปอย่างช้าๆตามธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้เซลล์ไขมันที่ตายไปกลับมาใหม่ได้ยากกว่าการดูดไขมันออก

กฎข้อที่ 3 ถ้าหลัง 3 เดือนแล้ว รูปร่างยังไม่เปลี่ยนแปลงล่ะ ให้กลับไปดูกฎข้อแรก

นอกจากกฎ 3 ข้อดังกล่าวแล้ว หมออยากให้คุณบันทึกสัดส่วนของร่างกายคุณด้วยตัวเองทุกๆ 2 สัปดาห์เก็บไว้ดูความเปลี่ยนแปลงกันนะคะ

สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่ปรารถนาจะมีรูปร่างที่ดี ไม่ว่าจะเพื่อตนเอง เพื่อคนที่เรารัก หรือเพื่ออะไรก็ตามแต่ หมออยากให้คุณกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง มีความเชื่อว่าคุณเองก็ทำได้ เพื่อชีวิต บุคลิกภาพที่ดีกว่า เสริมสร้างความมั่นใจของคุณเองกันนะคะ