ลดสัดส่วนด้วยการสลายไขมันเลือกอย่างไรตรงประเด็น!!!
ลดสัดส่วนด้วยการสลายไขมันเลือกอย่างไรตรงประเด็น!!!
เลือกสลายไขมันลดสัดส่วนยังไงให้ผลลัพธ์ที่โอเค?
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
1. ดูดไขมัน vs สลายไขมัน ต่างกันตรงไหน
2. BMI สำคัญกับการเลือกวิธีผอมอย่างไร
3. เกณฑ์พิจารณาควรเลือกสลายไขมันแบบไหนดี
4. ผลลัพธ์จากการเลือกรักษาอย่างเหมาะสม
5. ศึกษาโปรแกรมการรักษาเพิ่มเติม
ยุคนี้!! ทำไมการลดสัดส่วนแบบไม่ต้องผ่าตัดกลายมาเป็นที่นิยมแทนการดูดไขมันกันอย่างแพร่หลาย
ด้วยเหตุผลอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
สรุป ปัจจัยหลักคงเป็นเรื่อง ความเสี่ยงจากอันตรายของก้อนไขมันสามารถพลัดเข้าไปอุดตันในเส้นเลือด ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นการดูดไขมันควรทำในสถานพยาบาล-โรงพยาบาลที่มีความพร้อมมาก อีกประเด็นสำคัญอีกอย่างคือ การดูดไขมันจำเป็นต้องมีการพักฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งหมอเองก็มีคนไข้ที่ไปดูดไขมันมาเล่าให้ฟังเช่นกัน ว่าต้องพักไป 2 อาทิตย์เกือบแย่ เข็ดแล้วคงไม่ทำแบบนี้อีก
แต่คนไข้เคสไหนที่มีน้ำหนักมากเกินไป อย่างคนไข้ที่มี BMI>35 หมอก็แนะนำให้ไปดูดไขมันหรือลดความอ้วนลงก่อนนะคะ เพราะคงไม่เหมาะกับการลดสัดส่วนแบบเฉพาะที่ดังที่จะแนะนำต่อไปนะคะ
คำถามถัดมา สำหรับคนที่สามารถสลายไขมันได้ควรเลือกเครื่องมือแบบไหนสลายไขมัน ถ้าในปัจจุบันตัวที่เป็นที่ยอมรับจะมีแค่ warmsculpting และ coolsculpting ที่มีงานวิจัยและรางวัลรับรองพอสมควร
ที่นี่หลักการง่ายๆที่เราสามารถใช้เป็นเกณฑ์เบื้องต้นในการพิจารณาว่าควรจะเลือกสลายแบบเย็น หรือสลายไขมันแบบร้อนดี มีดังนี้
1. พิจารณาบริเวณที่ต้องการสลายไขมันว่าเป็นอย่างไร
ถ้าเนื้อย้วยๆ เหลวๆ ปริมาณไขมันมีมากก็อาจพิจารณาสลายไขมันด้วย coolsculpting แต่ถ้าพื้นที่ๆต้องการสลาย มีชั้นไขมันที่หนาและมีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อแข็งก็อาจดูเป็น warmsculpting ได้ หรือถ้าต้องการให้บริเวณที่จะสลายมีผิวที่กระชับแน่นด้วย ก็ดูเป็นการสลายไขมันแบบร้อนที่ลดสัดส่วนและกระชับผิวในขั้นตอนเดียว
2. พิจารณาขนาดของพื้นที่ๆเราต้องการลดไขมัน
พื้นที่ๆต้องการลดไขมันกับหัวสลายไขมันมีความเหมาะสมกันแค่ไหน ง่ายๆก็ต้องการพื้นที่หน้าตัดกว้างก็ดู coolsculpting พื้นที่หน้าตัดแคบมีบริเวณให้ติดหัวจับน้อย เช่น ร่างกายผู้หญิงเราที่เล็กบางแต่ยังมีไขมันสะสมในบางบริเวณ ก็อาจต้องใช้การลดไขมันแบบ warmsculpting หรือเจ้า sculpsure
3. พิจารณาบริเวณที่ต้องการสลายไขมันมีกี่ตำแหน่ง
เช่น อยากสลายตรงหน้าท้อง 1 จุด ก็สามารถเลือกทำ coolsculpting หน้าท้อง หรือบริเวณสะโพกทั้ง 2 ข้าง อาจเลือกเป็น sculpsure สะโพกด้านข้างทั้ง 2 ข้าง เพราะตำแหน่งการวางหัวสลายทำได้หลากหลายมากกว่า เป็นต้น
4. พิจารณาแนวลึก x แนวกว้าง (vertical & Horizontal)
sculpsure เป็นการส่งผ่านพลังงานความร้อนซึ่งสามารถลงได้ลึกกว่าไกลกว่า ดังนั้น warmsculpting จึงอาจเหมาะกับการฆ่าไขมันที่มีการสะสมของเซลล์ไขมันหลายๆชั้นซ้อนกันมากๆ แต่การสลายไขมันแบบเย็น coolsculpting จะเน้นการกระจายออกข้างซึ่งก็เหมาะกับพื้นที่ๆมีไขมันกว้างๆ
แนวทางคร่าวๆก็จะประมาณนี้ค่ะ แต่ทางที่ดีคนไข้ที่ต้องการสลายไขมันควรมีการประเมินรูปร่างก่อนทำการสลายไขมันโดยผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อประสิทธิภาพทางการรักษา
ซึ่งการรักษาบางเคส ก็จำเป็นต้องผสมผสานการลดไขมันด้วย coolsculpting และ warmsculpting ไปด้วยกัน เนื่องจากไขมันที่สะสมตามร่างกายคนเราแต่ละบริเวณแตกต่างกัน ดังนั้น เราจึงควรเลือกเอาวิธีการสลายที่เหมาะเฉพาะเจาะจงมากที่สุดกับไขมันในแต่ละบริเวณค่ะ
อยากให้คนไทยมาดูแลสุขภาพและบุคลิกเพื่อรูปร่างที่ดีและเติมเต็มความมั่นใจกันค่ะ
อยากศึกษาข้อมูลการรักษาเพิ่มเติม
coolsculpting สลายไขมันแบบเย็น คลิก ที่นี่
warmsculpting สลายไขมันแบบร้อน คลิก ที่นี่
Know You ก่อนจะทำการสลายไขมันคุณจะต้องรู้จักตัวเองก่อนค่ะ โดยหมอจะให้แนวทางการลดน้ำหนักแบบมีแบบแผนดังนี้ คลิกที่นี่ คุณจะต้องสำรวจตัวเองก่อนที่จะเข้ามาพบหมอเพื่อขอคำแนะนำ
แด่ผู้ที่ปรารถนาจะมีรูปร่างที่ดี ไม่ว่าจะเพื่อตนเอง เพื่อคนที่เรารัก หรือเพื่ออะไรก็ตามแต่ หมออยากให้คุณกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อชีวิต สุขภาพและบุคลิกภาพที่ดีกว่า เราเชื่อมั่นว่าคุณเองก็เปลี่ยนแปลงได้เช่นกันค่ะ
24 ตุลาคม 2564
ผู้ชม 1039 ครั้ง