เลเซอร์ฝ้า สีผิวผิดปกติ
เลเซอร์ฝ้า สีผิวผิดปกติ
เลือกอ่านรักษาฝ้าด้วยพิโคเลเซอร์ pico laser
1. รู้จักฝ้าให้ดีก่อนจะรักษาฝ้า
3. pico laser ต่างจากเลเซอร์รักษาฝ้าทั่วไปยังไง
4. ผิวเป็นฝ้าแบบไหนไม่ควรทำเลเซอร์
5. ทำไมฝ้าจึงมีโอกาสกลับมาใหม่หลังจากเลเซอร์ไปแล้ว
7. คำแนะนำเบื้องต้นในการดูแลหน้าเป็นฝ้า
รู้จักฝ้าให้ดีก่อนจะรักษาฝ้ากัน
ฝ้าคือรอยโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่มีลักษณะของสีดำหรือน้ำตาลเป็นปื้นๆ หรือคราบดำๆ มักเกิดบริเวณใบหน้า เช่นโหนกแก้ม สันจมูก อาจพบที่หน้าผากและผิวเนื้อปากบนก็ได้ สาเหตุการเกิดฝ้าหลักๆหนีไม่พ้นเรื่องแสงแดด แต่ความเครียด ฮอร์โมน ตลอดจนยาสารเคมี ครีมทาหน้าบางอย่างก็ส่งผลให้เป็นฝ้าได้ รู้จักฝ้าเพิ่มคลิก 5 เรื่องฝ้าน่ารู้
เลเซอร์แบบไหนรักษาฝ้าได้ผลดี
ปัจจุบันเลเซอร์ที่ได้ยอมรับว่ามีประสิทธิภาพทางการรักษาฝ้าได้ดี คือ pico laser
- สามารถทำลายเม็ดสีได้แตกละเอียดกว่า
- ไม่ก่อเกิดความร้อนสะสมในเซลล์
- ขจัดสิ่งผิดปกติได้ดี จึงช่วยลดการเกิดใหม่ได้ดีกว่า
picosecond laser ต่างจากเลเซอร์ทั่วไปอย่างไร
picosecond laser ใช้วิธีการทำลายเม็ดสีผิว ด้วยการส่งพลังงานความเร็วสูงในระดับ 10-12 หรือ 1 ต่อ ล้านล้านวินาที (picosecond) จากการที่ถูกพัฒนามาในยุคเลเซอร์มีความเร็วสูง ทำให้ส่งพลังงานไปกระทบเม็ดสีอย่างแม่นยำช่วยทำให้เม็ดสีแตกตัวอย่างละเอียด และไม่ทำให้ความร้อนสะสมในเซลล์ผิวอีกด้วย จึงได้ประโยชน์ในเรื่อง การรักษาฝ้าที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
ผิวเป็นฝ้าแบบไหน ที่ไม่ควรทำเลเซอร์
การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์เป็นตัวเลือกแรกๆของหมอผิวหนังหลายท่านในการรักษา แต่ไม่ได้หมายความว่าฝ้าทุกประเภทเหมาะแก่การรักษาด้วยเลเซอร์นะคะ แนวทางรักษาสำหรับ silverine clinic แพทย์จะซักประวัติคนไข้ก่อนเสมอ คนไข้บางคนไม่ควรจะเลเซอร์เลยทันที เช่น คนไข้เป็นฝ้าที่ผิวไวแสงมาก หรือคนไข้ที่รักษาฝ้าโดยการลอกหน้าด้วยกรดมาตลอด ซึ่งมีคนไข้หลายคนนิยมรักษาด้วยวิธีนี้ หรือคนที่ทาครีมหน้าขาวกลุ่มHydroquinone มานานมาก อาจไม่เหมาะกับการเลเซอร์รักษาฝ้าทุกเคสไป ดังนั้นหมอจะจำแนกประเภทฝ้าและวางแผนแนวทางการรักษาก่อนเสมอ
ปัจจุบันมีวิธีอื่นๆที่ช่วยรักษาให้ฝ้าดีขึ้นได้ ไม่ต้องเครียดนะคะ แต่ต้องเริ่มตระหนักและค่อยๆรักษากันไป silverine clinic เรามีคติที่ว่า เล็กๆน้อยๆ x สม่ำเสมอ = ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่มหาศาล เป็นเรื่องจริง บางเคสที่ไม่สามารถเลเซอร์ฝ้าได้ ไม่ได้หมายความว่ารักษาฝ้าไม่ได้ หากแต่มีแนวทางอื่นในการดูแลคนไข้นั้นๆเป็นรายๆ หากคนไข้ร่วมมือหมั่นดูแลฝ้าเป็นประจำ ผลลัพธ์หน้าใสไร้ฝ้าเกิดขึ้นได้จริง หมอเห็นมาหลายเคสแล้วคะ
ทำไมพอเลเซอร์รักษาฝ้าหายไปแล้ว ถึงกลับมาเป็นใหม่อีก
ลองจินตนาการเปรียบการเป็นฝ้าเหมือนโรคเบาหวาน หรือโรคไขมันดู หากคุณทานยาไม่สม่ำเสมอ ไม่ควบคุมการกิน การออกกำลังกาย ดูแลตัวเองอย่างดีพอโรคย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
ฝ้าก็เช่นกัน ถ้าคุณยิ่งปล่อยให้ผิวคุณพังแบบมีแต่เม็ดสีขยะ ยิ่งขบวนการกำจัดออกของเซลล์ผิว detoxification ไม่ดีด้วยแล้ว พอผิวแก่เสื่อมฝ้าย่อมมีโอกาสหายได้ยาก เลเซอร์รักษาฝ้าช่วยได้เหมือนการทานยารักษาโรค แต่สำคัญกว่าคือ การดูแลตัวเองและทำให้สม่ำเสมอ ไม่มากหรือน้อยเกินไป ผลลัพธ์คือผิวหน้าเกลี้ยงเกลา สุขภาพดีไร้ฝ้าถึงจะเป็นไปได้ หากทำอย่างถูกต้องและมีการดูแลในชีวิตประจำวันอย่างดี ฝ้าย่อมหายได้แน่นอน แต่ส่วนใหญ่แล้วมักทำกันแบบขอไปที พอฝ้าจางหน่อยก็เลิกดูแลกัน ทำให้กลับมาเป็นฝ้าได้ใหม่ค่ะ
คำแนะนำเบื้องต้นก่อนจะรักษาฝ้า
การจะรักษาฝ้าให้ได้ผลดีนั้นต้องปฏิบัติตัวอย่างไร นอกจากจะเลเซอร์ลบฝ้าแล้ว การเปลี่ยนแปลงนิสัยหรือพฤติกรรมบางอย่างย่อมส่งเสริมให้การรักษาฝ้ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- หมั่นทากันแดดเป็นประจำอย่างถูกวิธีและพยายามหลบแดด คลิกอ่าน เทคนิคทากันแดดอย่างมีคุณภาพ
- หากทราบปัจจัยกระตุ้นบางอย่างที่ทำให้เกิดฝ้า เช่น ความเครียด การใช้ยา หรือตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดฝ้าหรือหาแนวทางรักษาต้นเหตุไปพร้อมกัน
- หากเป็นฝ้าที่มีความหนาและค่อนข้างชัดควรรีบรักษา เพราะยิ่งทิ้งไว้นาน โดยส่วนใหญ่ฝ้าจะยิ่งหายได้ยากขึ้น
หลายคนชอบปล่อยให้เป็นฝ้าแบบเยอะๆหนักแล้วค่อยรักษาฝ้าทีเดียว กว่าจะเป็นฝ้าได้ ผิวเราสะสมเม็ดสีขยะมานานแล้วไม่รู้แค่ไหน ทำให้สุดท้ายรักษาเท่าไหร่ก็ไม่ได้หายได้เหมือนเดิม ฉะนั้น ให้เข้าใจใหม่ว่าการรักษาฝ้า คือ การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
สนใจโปรโมชั่นรักษาฝ้า คลิก
25 กันยายน 2564
ผู้ชม 15243 ครั้ง